หมวดหมู่ : ลดพิเศษ 10% ,  ผู้เขียน Alice Schroeder ,  วีเลิร์น ,  ธุรกิจ , 
Share
ข้อมูลหนังสือ
รหัสสินค้า 9786162870682
ผู้เขียน Alice Schroeder
ผู้แปล อนรา สุภัคโรจน์
ขนาด 14.5 x 21 เซนติเมตร
จำนวนหน้า 544
รายละเอียดย่อ
ชีวประวัติเล่มแรกและเล่มเดียว
จากปากคำของวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยตรง!
รายละเอียดทั้งหมด
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นบุคคลสำคัญของแวดวงการเงินและของโลก ทุกการตัดสินใจของเขา...ทุกครั้งที่เขาขยับ โลกเป็นต้องจับตามอง วิธีคิดและหลักการในการทำธุรกิจและการลงทุนของเขาเป็นที่รับรู้แพร่หลายมานานนับสิบปี แต่คำถามก็คือวิธีคิดแบบนี้มาจากไหน? บุคคลหรือสิ่งใดที่หล่อหลอมให้เขามีมุมมองอย่างที่เป็นอยู่?
ในหนังสือเล่มนี้ อลิซ ชโรเดอร์ นักการเงินและคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้รับอนุญาตโดยตรงจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขา เธอใช้เวลากว่า 5 ปีในการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล ตลอดจนสัมภาษณ์ตัวบัฟเฟตต์เอง รวมถึงครอบครัว เพื่อนฝูง และหุ้นส่วนธุรกิจของเขานับร้อยคน แล้วเรียบเรียงออกมาเป็นชีวประวัติฉบับสมบูรณ์ที่สุด
เนื้อหาแต่ละบทจะพาคุณไปพบกับ “ด้านสว่าง” และ “ด้านมืด” ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ในแบบที่คุณนึกไม่ถึง พร้อมทั้งสอดแทรกบทเรียนธุรกิจและบทเรียนชีวิตที่เกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก ซึ่งสั่งสมเพิ่มพูนไปตามกาลเวลาจนกลายเป็นภูมิปัญญาที่ทำให้เขาได้รับการขนานนามว่า “ปราชญ์แห่งโอมาฮา”
เส้นทางชีวิตของวอร์เรน บัฟเฟตต์
ปี 1930 ลืมตาดูโลกในยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
ปี 1936 หาเงินก้อนแรกได้จากการเร่ขายหมากฝรั่งตอนอายุ 6 ขวบ
ปี 1942 ซื้อหุ้นครั้งแรกในวัย 11 ขวบด้วยเงิน 120 ดอลลาร์
ปี 1944 เกเรจนถูกครูตราหน้าว่าเป็นเด็กเหลือขอและไม่มีวันประสบความสำเร็จในชีวิต
ปี 1950 ถูกปฏิเสธจากฮาร์วาร์ด และได้เรียนกับเบน เกรแฮม จนทำให้มีมุมมองเกี่ยวกับหุ้นที่ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ปี 1956 ก่อตั้งกองทุนซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกของอาณาจักรแห่งความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน
ปี 1959 พบบุคคลสำคัญที่เปลี่ยนให้เขาหันมาลงทุนแบบเน้นคุณค่าเต็มตัว
ปี 1965 ซื้อหุ้น Berkshire Hathaway มากพอจนมีอำนาจควบคุมกิจการ แต่ต่อมาก็บอกว่านั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต
ปี 1966 รู้จักกับนักบริหารมือฉมังที่มีอิทธิพลต่อวิธีคิดในการเข้าซื้อกิจการของเขาจวบจนทุกวันนี้
ปี 1975 ถูก ก.ล.ต. สอบสวนในข้อหาฉ้อโกงและแจ้งข้อมูลเท็จ
ปี 1977 ถูกภรรยาทิ้ง
ปี 1987 เริ่มเข้าสู่แวดวงการเงิน แต่เพลี่ยงพล้ำหลายครั้งจนชื่อเสียงด่างพร้อย
ปี 1991 รู้จักกับบิลล์ เกตส์ ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อนสนิทและลูกชายคนที่สาม
ปี 1999 ทำนายว่าฟองสบู่ดอทคอมจะแตก และถูกเย้ยหยันว่าเป็นคนคร่ำครึที่ไม่ยอมซื้อหุ้นอินเทอร์เน็ต
ปี 2003 คนที่รักที่สุดล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง
ปี 2006 มอบหุ้น 83% ของ Berkshire ให้มูลนิธิของบิลล์ เกตส์ ซึ่งเป็นการบริจาคครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ปี 2006 ราคาหุ้น Berkshire ทะลุ 100,000 ดอลลาร์ ทำลายสถิติหุ้นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในอเมริกา